Hokkaido, I miss snow. Not the cold, but how pretty snow is.

Voyage

  • Pen: & Lens: Frank Dolp
  • Lens:

Posted: 03 April 2018


Hokkaido, I miss snow. Not the cold, but how pretty snow is
 ฮอกไกโด ในวันที่หิมะตกบนหัว

  
  
  


 
“กูเอาตัวเองมาลำบากตรงนี้ทำไมเนี่ย?” ผมถามตัวเองขณะลงจากรถบัสสนามบิน
 
       คือขอย้อนกลับไปนิดนึงว่า 5 ชม. ก่อนนี้ ผมยังเป็นมนุษย์จากเส้นศูนย์สูตรที่ใช้ชีวิตในอุณหภูมิ 35 °c ไม่น่าเชื่อว่าเพียงพ้นประตูรสบัสที่ส่งผมลงตรงกลางเมืองฮาโกดาเตะ ผมจะกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ต้านทานการต้อนรับของฮอกไกโดที่ -10 °c ไม่ไหว ในใจแอบคิดระหว่างเดินแบกสัมภาระไปยังโรงแรม “อะไรมันจะหนาวขนาดนี้วะ!!!” ยังนึกขำตัวเองที่มีหน้าไปแซวคนอื่นว่าซื้อ Heat Tech ไปทำไมเยอะแยะ ทั้งเสื้อ กางเกง ผ้าพันคอ หมวก ไปจนถึงถุงเท้าเว่อร์สุด ๆ มันไม่หนาวขนาดนั้นหรอก... ตัดภาพกลับมาที่สภาพตัวเองตอนนี้
       ถามว่าทริปนี้ประทับใจอะไรบ้าง แน่นอนครับ อย่างแรกก็ต้องหิมะสิ ทั้งเดินเหยียบ เตะ หยิบมาปั้นแล้วขว้างใส่คนอื่น เอามาแตะลิ้นชิม ไปจนถึงลื่นหัวเกือบทิ่ม ผมผ่านครบทุกคอร์สครับ  แต่ถ้ามัวมาเห่อกับหิมะอย่างเดียวเดี๋ยวจะเบื่อเอา งานนี้ก็เลยต้องเสพเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นเวอร์ชั่นเมืองหนาวไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งในความเป็นญี่ปุ่น พอเห็นอะไรโผล่เข้าตาเราปุ๊บก็มักจะตกหลุมรักทันที
       แต่จะให้เล่าทุกช่วงทุกตอนของทริปก็ดูจะเยอะไป (ขนาดเกริ่นยังเข้าย่อหน้าสามแล้ว) บวกกับช่วงที่ตีพิมพ์บทความนี้ ผมว่าหิมะน่าจะพร่องไปพอสมควร เพราะอีกไม่กี่วันก็จะสงกรานต์แล้ว เอาเป็นว่าใครจะไปเยี่ยมฮอกไกโดต้นปีหน้า ถ้ากลัวว่าไปแล้วจะไม่เจออะไรแปลกหูแปลกตา จะหยิบข้อมูลที่ผมได้จากทริปนี้เป็นแผนสำรองไว้ก็ยินดีจ้า ว่าแล้วก็ลุยบรรทัดถัดไปเลย

    
 
Lucky Pierrot : เบอร์เกอร์ตัวตลก
เรียกว่าเป็น OTOP ของเมืองฮาโกดาเตะเลย กับร้านฟาสต์ฟู้ดสีเหลืองที่มีโลโก้ตัวตลกยิ้มแฉ่ง แถมพักตรงไหนก็หาชิมได้ไม่ยากเพราะสาขาเยอะจริง อ้อ...ถ้าไปเมืองอื่น หิมะตามไปแต่ตัวตลกไม่เดินตามนะจ๊ะ เฉพาะคนที่มาเยี่ยมเมืองนี้เท่านั้นถึงจะได้ชิม และ “เบอร์เกอร์กุ้งทอด” คือความสุดของร้านนี้เลย เพราะเสิร์ฟเนื้อกุ้งเป็นตัว ๆ ในพิมพ์กลมทอดกรอบๆ พร้อมฉาบซอสพิเศษสูตรเข้มข้น ประกบขนมปังนุ่ม ๆ ชิ้นโตบนล่างเป็นอันจบ แต่จะให้ดีแนะนำว่าสั่งน้ำสละกระป๋องมาจิบด้วยจะฟินไปอีก  
 

    
    

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ
ก็รู้นะว่า ตลาดสึคิจิ คือหนึ่งในใต้หล้าตลาดปลาทะเลสด แต่จะให้บินข้ามไปกินแล้วมาลุยหิมะต่อก็ไม่ไหวป่ะ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะจึงเป็นทางสว่างเล็กๆ สำหรับขาชิม ที่แม้ไซส์ตลาดจะไม่ใหญ่ แต่ความสดของน้องปลาที่นี่ก็เล่นใหญ่ใช้ได้เลย ครบทั้งทูน่า แซลมอน และปลาท้องถิ่น อ้อ... ไฮไลท์คือบางร้านจะมีบ่อหมึกให้ลูกค้าตกหน้าร้าน ใครอยากได้ตัวไหนก็ตกได้เลย จะกินเป็นซาชิมิและเมนูไหนก็แจ้งทางร้านได้เลยจ้า
 

    

โทยะ : เรือ ฝูงนก และผืนน้ำ
หลังประตูรถไฟเปิด จะรู้สึกทันทีว่าเมืองนี้มันดูเหงาๆ ชอบกล แต่ถ้านั่งรถบัสมุ่งตรงไปยังทะเลสาบโทยะล่ะก็ วิวผืนน้ำตรงหน้าจะบังคับนิ้วคุณให้แชะภาพโดยอัตโนมัติ แถมบรรยากาศเงียบ ๆ เมื่อกี๊ จะขับส่งชูโรงให้แอ่งทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นพระเอกทันที ซึ่งถ้าใครอยากเปลี่ยนวิว ช่วงกลางวันยังเขายังมีบริการล่องเรือชมวิวรอบทะเลสาบด้วยนะจ๊ะ แถมตอนเรือออกจะมีฝูงนกนางนวลบินมาเล่นกับเราเพียบ แต่ต้องรีบหน่อย เพราะเข้าช่วงเย็น รอบเรือก็หมดแล้วจ้า อ้อ... ที่เซอร์ไพรส์คือโรงแรมแถวนี้ให้บริการบ่อน้ำร้อนรวมด้วยจ้า ใครที่ซีเรียสเรื่องนี้ แนะนำให้ลงไปอาบตอนดึก ๆ หรือช่วงที่ห้องโล่งแทนนะจ๊ะ หึหึ
 

    

โอตารุ : คลองสวย เนื้อย่าง และคราฟต์เบียร์
เสร็จจากการโบกมือลาฝูงนกหน้าเหวี่ยงๆ จากโทยะ ผมนั่งรถไฟผ่านซับโปโรแล้วมุ่งหน้าไปยังโอตารุก่อน เมืองเล็กที่มีคลองสวยๆ อยู่ตรงกลาง รอบๆ เป็นที่ตั้งของอาคารดีไซน์โกดังคล้ายจะหลุดมาจากยุคสงครามโลก เข้ากันดีกับผืนหิมะที่ปกคลุมแทบทั้งหมดของเมือง ไม่แปลกที่จะได้ยินเสียงชัตเตอร์บ่อย ๆ บริเวณนี้ สำหรับใครที่เน้นชิม คุณได้ฟินแน่ๆ กับบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างราคาไทยๆ คราฟต์เบียร์ท้องถิ่นที่ร้านสวยสุด ๆ และที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือช็อคโกแลตและชีสเค้กที่ (โคตร) อร่อยจากร้าน Letao 
 


  

โทมามุ : สกีมือใหม่ ง่ายนิดเดียว
เมืองนี้จะอยู่ไกลหน่อย ยิ่งถ้านั่งจากโอตารุมาก็น่าจะราวๆ 3 - 4 ชม. แต่พอถึงปุ๊บ ความเบื่อที่เกิดจากการรอนั้น ถูกแทนที่ทันทีด้วยภาพสกีรีสอร์ทสวยๆ ที่มีภูเขาสีขาวโอบล้อมแทบทุกด้าน ละลานตาด้วยสีสันจากเสื้อกันหนาวนักท่องเที่ยวและอุปกรณ์เอ็กซ์ตรีมเป็นโขยง ซึ่งถ้าไม่ได้เอามาเอง ทางโรงแรมมีให้เช่าครบเลย ตั้งแต่สกีนั่งความเร็วต่ำสำหรับลุง ๆ ป้า ๆ ไปจนถึงสกีและสโนว์บอร์ดระดับโปร อ้อ... จริง ๆ ช่วงเช้าของสถานีรถไฟจะมีรถบัสพาคุณไปตกปลาใต้แผ่นน้ำแข็งด้วยแหละ ดังนั้นถ้าอยากไปรบกวนเผื่อเวลาเดินทางดี ๆ ด้วยนะ (ส่วนผมก็พลาดจ้า ตื่นสายเองT___T)
 


  

ซับโปโร : เมืองหลวงเกาะน้ำแข็ง
ตอนแรกที่มาถึง ผมแอบสงสัยว่าประชากรซับโปโรมีเท่านี้จริงๆ เหรอ เพราะเดินไปทางไหนก็โหรงเหรงมาก ผิดกับจำนวนตึกสูงที่เบียดกันแน่น แต่พอพ้นประตูรถไฟใต้ดิน ถึงเข้าใจว่าเขาไปไหนกัน เพราะด้วยอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นบวกกับทุกสถานีถูกเชื่อมด้วยพื้นที่ของห้างและพลาซ่าขนาดใหญ่นั่นเองคนเลยมารวมกันตรงนี้หมด แต่แม้อากาศด้านบนว่าหนาวแค่ไหน เจอราคาหลังป้ายเซลนี่หนาวกว่า คือมันถูกสวนทางกับราเม็งที่กินมาเมื่อกี๊เลย สายช้อปน่าจะฟินกับเทศกาลเซลของคนที่นี่แน่ๆ ส่วนสายเที่ยวอย่าเพิ่งน้อยใจ จะขึ้นไปชมวิวหอวิทยุก็โออยู่ หรือจะรอชมเทศกาลแกะสลักหิมะเว่อร์วังสุด ๆ ก็คุ้มเช่นกัน ซึ่งถ้าอยากเห็นตอนมันเสร็จจริง ๆ รบกวนเช็ควันงานให้ดีก่อนนะ ไม่งั้นจะเหมือนผมนี่แหละ เห็นแค่นั่งร้านและแผ่นหลังช่างแกะสลัก เจริญ!!!
 
       ทั้งหมดนี้แหละครับ น่าจะพอเห็นภาพทริปหิมะที่ฮอกไกโดกันคร่าวๆ แล้ว เป็น 9 วัน 8 คืนที่แม้จะไม่ราบเรียบค่อนไปทางทรมานชีวิตด้วยซ้ำ แต่ก็นับเป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวเขตร้อนอย่างเราลืมไม่ลงจริงๆ ซึ่งถ้าใครเห็นดีเห็นงามด้วย ปีหน้าจะลองหยิบหมุดหมายที่ผมเล่ามาเข้าไปในแผนคุณก็ยินดีครับ 
        

 
ท้ายสุดนี้ ขอกระซิบต่ออีกหน่อย ในเรื่องที่น่าจะเป็นประโยชน์กับทริปหิมะครั้งหน้าของคุณละกันจ้า
 
  • เตรียมแผ่นร้อนสำหรับมือไปเยอะๆ หาซื้อได้ที่ร้านขายยาบ้านเรา
  • ตั๋วรถไฟ JR ที่นี่มีหลายแบบมาก แนะนำให้วางแผนก่อนเดินทางแล้วจะได้ราคาที่ถูกลง
  • เดินทางไม่ถูกให้ถามประชาสัมพันธ์ JR เขาพูดภาษาอังกฤษได้
  • อะไรที่เป็น Heat Tech ซื้อๆ ไปเถอะ ซื้อให้ครบทุกจุดก็ยิ่งดี ถ้ามีงบแนะนำเป็นรุ่น Ultra Warm เพราะแบบปกติมันเอาไม่อยู่เท่าไหร่ 
  • เสื้อโค้ตและรองเท้า แนะนำแบบที่ลุยหิมะไปเลย ไม่งั้นมันจะแฉะง่ายมาก
  • อย่าให้หูโดนลมบ่อย มันจะชาและปวดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนหูจะปลิวหลุดยังไงยังงั้น
  • ข้าวกล่องเซเว่นคือนิพพาน คุณภาพต่างจากข้าวกล่องบ้านเราเยอะเลย (มันแพงกว่าหนิ) แนะนำไก่คาราเกะ อันนี้คือดี
  • ไดฟุกุเซเว่นก็นิพพานเช่นกัน
  • ควรเข้าไปเดินเล่นในร้านขายยาญี่ปุ่น แก็ตเจ็ทแบบอะเมซซิ่งเพียบ
  • อยากได้ของฝาก ของดี ของถูก เดินเข้าร้านดองกี้โฮเต้ (Don Quijote) ที่โลโก้เป็นนกเพนกวินกับพระจันทร์เสี้ยวรับรองจบ!!! 
  • เช็ควันและเวลาของวันสำคัญดีๆ ก่อนเดินทาง จะรู้สึกคุ้มขึ้นกว่าเดิม
  • เผื่อเวลาไปสนามบินดีๆ เพราะเราไม่รู้ว่าพายุหิมะจะเข้าตอนไหน
  • กระเป๋าแบ็คแพ็คดีกว่ากระเป๋าเดินทางแบบลาก เพราะพื้นหิมะลากไม่สะดวกเว่อร์
  • ถุงมือควรจะเป็นแบบจิ้มโทรศัพท์ได้ เพราะคุณไม่อยากถอดมันตอนอยู่ข้างนอกหรอก